กระแสตื่นตัวเรื่องการประหยัดพลังงานและเรื่องการห่วงใยสิ่งแวดล้อม เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เราได้เห็นการแนะนำเชิงรณรงค์ ให้แต่ละบ้านหันมาใช้หลอดไฟ ที่เป็นแบบประหยัดไฟแทนการใช้หลอดแบบไส้ที่เราเคยใช้กันมาก่อนหน้านี้ เพราะเมื่อนำหลอดไฟทั้งสองประเภทมาเปรียบเทียบกับ หลอดประหยัดไฟหรือหลอดตะเกียบจะประหยัดไฟมากกว่า เนื่องจากใช้พลังงานเพียง 25% เมื่อเทียบกับหลอดไส้ แถมยังใช้งานได้นานกว่าถึง 10 เท่า ซึ่งแม้ราคาของหลอดประหยัดไฟจะสูงกว่าหลอดไส้ แต่เมื่อมองในแง่ของระยะเวลาในงานการใช้งาน หลอดประหยัดไฟก็น่าจะให้ความคุ้มค่ามากกว่า
“ฉลาดซื้อ” ได้นำผลทดสอบหลอดประหยัดไฟ ที่มาจากองค์กรทดสอบระหว่างประเทศ ICRT ซึ่งมีหลายยี่ห้อที่วางขายในบ้านเรา มีให้เลือกตั้งแต่ราคาห้าสิบกว่าบาทไปจนถึงร้อยกว่าบาท ซึ่งเรื่องที่เป็นหัวข้อของการทดสอบครั้งนี้ก็คือ กำลังไฟที่ใช้ ความสว่าง มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรเมื่อหลอดไฟถูกใช้ไปในระยะเวลาหนึ่ง และเรื่องของอายุการใช้งานว่าตรงกับตัวเลขที่แจ้งไว้บนฉลากหรือไม่
สำหรับ ผลการทดสอบที่ออกมาถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ หลายๆ ยี่ห้อได้ผลทดสอบตรงตามกับข้อมูลที่แจ้งไว้บนฉลาก คือ ทั้งประหยัดไฟและใช้ได้นาน ส่วนเปอร์เซ็นต์การลดลงของความสว่างอยู่ที่ 70-80% มีเพียงไม่กี่ยี่ห้อที่ความสว่างลดลงมากกว่า 70% ซึ่งทั้งหมดเป็นยี่ห้อและรุ่นที่ใช้กำลังไฟฟ้าค่อนข้างสูง คือ 20 วัตต์
แต่ หลอดประหยัดไฟ ก็มีข้อควรระวังในการใช้คือ ไม่ควรให้หลอดแตก เพราะในหลอดไฟจะมีสารปรอท ซึ่งเป็นสารที่ช่วยทำให้เกิดแสงสว่าง โดยแต่ละหลอดจะใส่สารนี้ไว้เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5 มิลลิกรัม ซึ่งเมื่อหลอดประหยัดไฟแตก สารปรอทส่วนหนึ่งจะระเหยกลายเป็นไอ ส่วนที่เป็นผงก็จะฟุ้งกระจาย สารเหล่านี้เมื่อสูดดมเข้าไปอาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย
www.ฉลาดซื้อ.com
สามความปรารถนาสุดท้ายของอเล็กซานเดอร์มหาราช
-
สามความปรารถนาสุดท้ายของอเล็กซานเดอร์มหาราช :
เมื่ออเล็กซานเดอร์มหาราชพิชิตอาณาจักรต่างๆ และกลับมายังประเทศของตนแล้ว
พระองค์ก็ทรงประชดประชันจนต้องสิ้นพระ...
1 เดือนที่ผ่านมา